ประเภทของเรือรบ

10 สุดยอดเรือที่ทรงพลังที่สุดในโลก

1. เรือรบพิฆาตชั้นอิซุโมะ

2. เรือรบประจัญบานชั้นยามาโตะ

3. เรือบรรทุกอากาศยานพลังงานนิวเคลียร์ชั้นนิมิทซ์

4. เรือบรรทุกอากาศยานชั้นคุซเนทซอฟ

5. เรือบรรทุกอากาศยานเหลียวหนิง

6. ไอเอ็นเอส วิกรมาทิตย์

7. ชาร์ลส์ เดอ โกล เรือบรรทุกอากาศยานพลังงานนิวเคลียร์

8. เรือโจมตีสะเทินชั้นวาสพ์ (Wasp Class amphibious assault ship) 

9. เรือบรรทุกอากาศยานชั้นอินวิซิเบิล (Invincible class aircraft carrier)

10. เรือรบพิฆาตชั้นเซจอง (Sejong the Great class destroyer)

ประเภทของเรือรบ

1.Armored cruiser - เรือลาดตระเวนหุ้มเกราะ เป็นเรือที่เคยมีประสิทธิภาพมากใน

สงครามเก่าๆ ทั้งเร็วและพิษสงรอบตัวในระยะหลังไม่เพียงแต่ปฎิบัติงานทางทหารได้

อย่างเดียวยังสามารถทำงานอื่นๆได้หลายสถานการณ์อีกด้วยเรือนี้สามารถพลิกแพลง

เป็นอาวุธโจมตีได้มากมาย



2.Amphibious assault ship - เรือสะเทินน้ำสะเทินบกเป็นเรือที่ใช้สำหรับการขนส่ง

อาวุธยุทธปัจจัยรวมถึงกำลังพลไว้ใช้ในภารกิจต่างๆเปรียบเหมือนกองเสบียงเคลื่อนที่

หรือกำลังเสริมในยามจำเป็นสามารถบันทุกเฮลิคอปเตอร์เพื่อขนส่งของต่างๆได้อย่าง

รวดเร็ว



3.Aircraft carrier - เรือบรรทุกเครื่องบินเป็นกำลังรบหลักของการโจมตีที่มีรันเวย์

ให้เครื่องบินรบขึ้นลงไปทำภารกิจซึ่งเป็นเครื่องบินรบที่กองทัพเรือใช้ในการปฎิบัติ

ภาระกิจซึ่งสำคัญมากเพราะมันบรรทุกเครื่องบินมาเต็มลำจะให้โดนโจมตีไม่ได้

เด็ดขาด



4.Battlecruiser - เรือรบลาดตระเวนอยู่ในระดับขีดความสามารถที่พอๆกับเรือ

ประจัญบานใช้ในการศึกทางทะเลที่สำคัญมีอาวุธพร้อมรบมีเกราะอยู่ในระดับเรือลาด

ตระเวนหุ้มเกราะเคยเป็นเรือหลักในสงครามแต่เมื่อมีการเข้ามาแทนที่ของเรือประจัญ

บานทำให้เรือชนิดนี้เลิกนิยมไป



5.Battleship - เรือประจัญบาน เป็นเรือที่ใช้ยิงต่อสูประจัญหน้ากันทางทะเล หรือ

ใช้ในการยิงเข้ามาเพื่อสนับสนุนกองกำลัง ตัวเรือจะมีเกราะหนา อาวุธหนักอย่าง

ครบครัน เพื่อเอาไว้ป้องกัน อาวุธจากเรือลำอื่นเพราะเรือประเภทนี้ส่วนใหญ่มักจะ

ปะทะกันโดยตรงอาวุธนั้นมีขนาดใหญ่ทรงประสิทธิภาพและอันตรายเป็นอย่างมาก



6.Capital ship - เรือรบขนาดใหญ่และสำคัญที่สุดในเชิงสัญลักษณ์ของกองเรือรบ

ของแต่ละชาติ



7.Corvette - เรือคอร์เวต เป็นเรือที่มีขนาดเล็ก เกราะบาง ออกแบบมาเป็นเรือ

ตรวจการมากกว่าการเข้าประทะซึ่งหน้าเป็นเรือที่มีระวางขับน้ำประมาณ 650–1500 ตัน

สามารถใช้งานได้หลากหลายภาระกิจแล้วแต่การติดอาวุธของเรือซึ่งส่วนใหญ่จะติด

อาวุธอเนกประสงค์ให้ครอบคลุมในหลายๆภาระกิจ



8.Cruiser - เรือลาดตระเวนเป็นเรือที่จำเป็นมากในกองทัพเรือเพื่อใช้ลาดตระเวน

ดูความเคลื่อนไหวของศัตรูหรือคอยสอดส่องดูแลเขตน่านน้ำของตัวเองมีความเร็ว

ติดอาวุธพอที่จะปกป้องตัวเองได้ สำคัญมากที่กองเรือรบจะต้องมีเรือประเภทนี้ไว้

เป็นตาคอยสอดส่องหรือใช้เป็นเรือต่อสู้อากาศยานไว้ปกป้องเรือบรรทุกเครื่องบิน



9.Destroyer - เรือพิฆาต ออกแบบมาใช้สำหรับการรบประจัญหน้าบู๊ล้างผลาญ

โดยตรงติดอาวุธหนักครบถ้วน ความเร็วสูง ระวางขับน้ำมากมีระบบตรวจจับที่ดีเยี่ยม

ซึ่งพัฒนามาจากtorpedo boats หรือเรือตอร์ปิโด นั้นเอง ซึ่งเรือพิฆาตได้ถูกใส่อาวุธ

หนักเรือประเภทนี้มีส่วนสำคัญในการป้องกัน ภัยอันตรายต่างๆได้ เนื่องด้วยมีการปฏิบัต

งานที่ค่อนข้างไกลเป็นเรือป้องกันอย่างดีให้แก่กองเรือ หรือเรือสินค้า ถือเป็นเรือรบ

หลักในที่สำคัญในน่านน้ำเลยทีเดียว



10.Dreadnought - เรือรบประจันบาน"เอชเอ็มเอส เดรดนอท" (HMS Dreadnought)


ที่ติดปืนใหญ่ที่ยิงได้ทั่วทุกทิศ ทุกชาติต่างพากันสร้างเรือประจัญบาน หลังสงคราม

โลกครั้งที่หนึ่ง Dreadnought เรือผู้เปลี่ยนตำนานการต่อเรือยุคใหม่เพราะเรือลำนี้ คือ

ต้นแบบของการต่อเรือสมัยใหม่ ทำให้ทุกประเทศต้องพัฒนาตามอังกฤษเพื่อแข่งขัน

กันเป็นเจ้าครองน่านน้ำ



11.Fast attack craft - เรือเร็วโจมตีติดอาวุธนำวิถี  มีขนาดเล็ก เร็ว ปราดเปรียว

ติดอาวุธต่อต้านขีปนาวุธจากเรือมีปืนหรือตอร์ปิโดเป็นอาวุธมักเหมาะกับการปฎิบัติ

การใกล้ฝั่งมากกว่าการออกนอกน่านน้ำไกลๆพวกมันมีการคงทนต่อสภาพทะเลที่

รุนแรงได้ต่ำและอยู่รอดในทะเลลึกได้ยากระยะทำการใกล้ ระบบป้องกันตัวเองต่ำ

เพราะบรรทุกอาวุธได้น้อยอากาศยานอย่างเฮลิคอปเตอร์ก็สามารถใช้โจมตีเรือ

ชนิดนี้ได้ ทำภาระกิจได้ไม่หลากหลายแต่ยังพอมีประโยชน์กับกองทัพเรือที่มีงบ

น้อยที่ทำการแบบฉาบฉวยรวดเร็ว จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในชาติมหาอำนาจเพราะ

เรือคอร์เวตหรือ OPVที่ปฏิบัติภารกิจได้หลากหลายจะคุ้มค่ากว่า



12.Frigate - เรือฟริเกต เป็นเรือรบอเนกประสงค์มีความสามารถในการปฎิบัติงาน

รอบด้านไม่ว่าจะลาดตระเวน คุ้มกันกองเรือ หรือรบเต็มรูปแบบประจัญบานมีความ

เร็วพอประมาณมีความคงทนทะเลสูงมีทั้งเรด้าร์อากาศ พื้นน้ำ และโซน่าร์ เรือชนิดนี้

เป็นกำลังรบหลักในหลายๆประเทศที่มีกองเรือค่อนข้างจำกัด เพราะใช้งานได้คุ้มค่า

กว่าแบบอื่น



13.Gunboat เรือปืน



14.heavy cruiser - เรือลาดตระเวนขนาดใหญ่ เป็นเรือรบที่ถูกออกแบบให้มัน

ความเร็วสูงปืนใหญ่ 203 มม.ระหว่างปฎิบัติหน้าที่ปกติจะใช้เป็นเรือสอดแนมเพื่อ

โจมตีกองเรือและป้องกัน ค้นหาติดต่อกับเรือพานิชย์ค้าขายที่ผิดกฏหมายหรือ

อันตราย



15.Helicopter carrier - เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์



16.Minesweeper ship - เรือกวาดทุ่นระเบิด เรือรบที่มีหน้าที่หลักในการกวาดและ

ทำลายทุ่นระเบิด มีหลายประเภทแตกต่างตามขนาดและภาระกิจเช่นเรือกวาดทุ่นระเบิด

น้ำลึกเรือกวาดทุ่นระเบิดชายฝั่ง เรือกวาดทุ่นระเบิดน้ำตื้น และเรือล่า ทำลายทุ่นระเบิด.



17.Missile boat - เรือยิงจรวด



18.Offshore patrol vessel(OPV) - เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง เป็นเรือตรวจการณ์ใช้

สำหรับลาดตระเวนนอกพื้นที่ที่ไกลจากชายฝั่งหรือทะเลลึก เป็นเรือในแบบใหม่ค่าใช้

จ่ายในการปฏิบัติการนั้นถูกกว่าเรือฟริเกตมาก สามารถติดอาวุธเพิ่มได้ตามต้องการ

ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์พร้อมรบได้



19.pocket battleship - เรือพิฆาตติดอาวุธหนักหรือเรือประจัญบานขนาดกระเป๋า เรือรบ

ที่หุ้มเกราะและมีอาวุธยุทธภัณฑ์เต็มที่ที่ย่อขนาดลงมาจากเรือประจัญบาน ขนาดใหญ่

แต่พิษสง รอบตัวใช่ย่อย



20.Protected cruiser - เรือลาดตระเวนคุ้มกัน มีอาวุธขนาดกลางพอป้องกันตัวได้

แต่ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพรบเต็มที่พอจะรบในสงครามเต็มรูปแบบได้ เน้นภาระกิจ

ช่วยเหลือซะมากกว่า



21.Submarine - เรือดำน้ำ ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของหลายๆประเทศมากขึ้นเพราะ

มีประสิทธิภาพที่อันตรายสามารถจมกองเรือรบที่ขาดความชำนาญในการรีะวังตัว

ได้เป็นอย่างดีสามารถเป็นทางเลือกที่หลากหลายในการรบ



22.Torpedo boat - เรือตอร์ปิโด



23.Supercarrier - เรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่


ประเภทเรือรบ  เรือรบกองทัพ

ที่มา http://what998.blogspot.com/2014/02/warships.html