อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น อัจฉริยะ คนหนึ่งของโลกเขามีความสามารถทั้งทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์และเป็นนักฟิสิกส์

ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก แถมยังเป็นนักคิดค้นที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง แต่นิสัยส่วนตัวนั้น ไอน์สไตน์เป็นคนที่รักความสงบนอบน้อมถ่อมตน ไอน์สไตน์

เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ปี คศ. 1879  ที่เมืองอูล์ม ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมันนี บิดาของไอน์สไตน์เป็นชาวยิวอน์สไตน์ เริ่มสนใจ

วิทยาศาสตร์ ตั้งแต่อายุ 5 ขวบขณะที่เขากำลังนอนป่วยอยู่บนเตียง บิดาได้นำเข็มทิศมาให้เล่นเขาใส่ใจและสนใจอยากรู้ว่าทำไมเข็มทิศจึง

ชี้ไปทางทิศเหนือ และ ตั้งแต่นั้นมาเขาเริ่มสนใจทางคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ หนังสือเรขาคณิตเป็นหนังสือที่เขาโปรดปรานมากเขาศึกษาเรขาคณิต  

จากหนังสือของ ยูคลิด เมื่ออายุเพียง 12 ปีเขาทำความเข้าใจในเรื่องเรขาคณิตของยูคลิดเป็นอย่างดี ครั้งเมื่อเติบโตขึ้นจนอายุเข้า 16 ปี เขาก็สามารถ

เรียนรู้หลักการทางคณิตศาสตร์ชั้นสูงหลายอย่าง เช่น วิชาการแคลคูลัส และดิฟเฟอเรนเชียนการอินทิกรัล และกฎของ นิวตันตลอดจนหลักการ

ฟิสิกส์อีกมากมาย วันหนึ่งในวัยเรียนหนังสือเขามองดูท้องฟ้า และจินตนาการว่าถ้าตัวเขาวิ่งไล่ตามแสงด้วยความเร็วเท่ากับแสงแล้วอะไรจะเกิดขึ้น

  เขาจะมองเห็นแสงหรือไม่ ถ้าไล่ตามแสงด้วยความเร็วเท่ากับแสง ความเร็วสัมพันธ์ของแสงจะเท่ากับศูนย์หรือไม่ ถ้าแสงหยุดชงัก มันก็จะไม่มา

ถึงตาเรา วัตถุทั้งหลายก็จะหายไป สิ่งนี้ทำให้เขาขบคิดอยู่ตลอดมาต่อมาเขาได้เข้ามหาวิทยาลัย และเลือกเรียนวิชาฟิสิกส์เป็นวิชาเอก เขาสนใจ

ในวิชาฟิสิกส์อย่างมาก จนใน ปี คศ. 1900เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยและได้สิทธิการเป็นพลเมืองสวิส หลังจากนั้นได้มีโอกาสทำการ

วิจัยที่หน่วยงาน จดทะเบียนลิขสิทธิ์สิ่งประดิษฐ์ที่เบิร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนดจากการทำวิจัยในวัยหนุ่มของเขานี้เอง์ทำให้เขาได้พบกับ

ทฤษฎีสำคัญยิ่งสาม ทฤษฎีคือทฤษฎีปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กตริกทฤษฎีการเคลื่อนที่แบบบราวเนียนและ ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ

นั่นเองปี คศ. 1909   มหาวิทยาลัยชูริกได้เชิญเขาเป็นอาจารย์และต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ ไอน์สไตน์ได้ทำการสอนในอีกหลาย

 มหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยปราก มหาวิทยาลัยโปลิเทคนิคแห่งสวิส มหาวิทยาลัยเบอร์ริช และไอน์สไตน์ยังได้แสดงให้เห็นถึงอิทธิพล

ที่ทำให้เกิดการดึงดูดที่มีต่อการเดินทางของแสง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าแสงเป็นอนุภาคซึ่งเป็นสิ่งที่โต้แย้งมานานว่า แสงเป็นอนุภาคหรือเป็นคลื่น

 การสรุปครั้งนี้ทำให้ทราบว่าแสงเป็นทั้งอนุภาคและคลื่น ในปี คศ.1922 ไอน์สไตน์ได้รับรางวัลในสาขาฟิสิกส์ ต่อมาในปี คศ.1933 ขณะที่เขามีอายุ 54 ปี

ที่เยอร์มันนาซีได้ยึดอำนาจการปกครอง ไอน์สไตน์จึงหลบออกจากเยอรมัน เข้าเป็นสมาชิกของศูนย์วิทยาศาสตร์ชั้นสูงของอเมริกา และใช้ชีวิตที่เหลือ

ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ชีวิตในปั้นปลาย ไอน์สไตน์ได้รณรงค์ต่อต้านการผลิตอาวุธนิวเคลียรเขาเสียชีวิตที่พรินซ์ตัน ในปี คศ. 1955   ในขณะที่มีอายุ

ได้ 76   ปี

กลับไปเลือกนักวิทยาศาตร์